ทดสอบ All New YAMAHA AEROX ในรูปแบบเอ็นดูร้านซ์ 8 ชั่วโมง พิสูจน์สมรรถนะเทคโนโลยีบลูคอร์ พร้อมรูปโฉมใหม่ และระบบ Y-Connect ที่สนามไทยแลนด์เซอร์กิต
จากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ All New YAMAHA AEROX ตัวใหม่ล่าสุดกับลูกเล่นใหม่ระบบ Y-Connect ไปจนถึงเครื่องยนต์ใหม่ เฟรมใหม่ ทำให้รู้สึกว่าอยากจะพิสูจน์รถรุ่นนี้แบบโหดจริงๆ แน่นอนว่าการขับขี่ในสนามแข่งจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะตัวรถจะต้องใช้รอบเครื่องที่สูงตอนออกจากโค้ง เพราะในครั้งนี้ทำการทดสอบกันแบบเอ็นดูร้านซ์ 8 ชั่วโมงโดยไม่พัก และหวังลึกๆว่าจะมีสถิติที่ดีมาอวดท่านผู้อ่าน เพราะในระบบ Y-Connect มีโหมด Ranking เปรียบเทียบกับผู้ขับขี่ยามาฮ่าทั่วโลก โดยการทดสอบนี้ได้จัดขึ้นที่สนามไทยแลนด์เซอร์กิต นครชัยศรี ซึ่งต้องขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้
หลังจากที่บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัดได้ทำการเปิดตัวรถออโตเมติกรุ่นใหม่ All New YAMAHA AEROX ไปแล้วในช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา พร้อมทั้งยังมีการจัดการอบรมข้อมูลเทคนิคที่มีการปรับโฉมใหม่หมด รวมถึงเพิ่มเทคโนโลยีสุดล้ำเข้ามาในตัวรถให้สมกับเป็น All New YAMAHA AEROX ทางทีมสื่อมวลชนสายรถจักรยานยนต์จึงได้รวมตัวกันจัดการทดสอบต่อยอดของการขับขี่ All New YAMAHA AEROX ขึ้นไปอีกระดับ ด้วยการนำ All New YAMAHA AEROX มาขับขี่รูปแบบเอ็นดูร้านซ์ 8 ชั่วโมง โดยขับขี่กันอย่างต่อเนื่องโดยไม่พัก ซึ่งมีสื่อมวลชนที่เป็นสื่อสายรถจักรยานยนต์ที่ผ่านประสบการณ์การขับขี่ในหลากหลายรูปแบบมาเป็นระยะเวลานาน ภายใต้การรวมตัวกันของ Ridersclubmag , It My Ride , Stopbike Channel, Riding , The Test โดยมีสื่อมวลชนอีก 2 ท่านจากนิตยสารจักรยานยนต์เวิร์ลด์ และ นิตยสารทูฟาส มาร่วมเป็นสักขีพยานไปจนถึงให้ข้อมูลและช่วยดูแลการทดสอบเสมือนเป็นผู้จัดการทีมในการทดสอบในครั้งนี้ โดยการทดสอบ All New YAMAHA AEROX เริ่มมีการเคลื่อนไหวกันในช่วงเวลา 10 โมงเช้า โดยทีมเซอร์วิสจากทางยามาฮ่าได้ทำการตรวจเช็ครถ สภาพลมยางและเติมน้ำมันเต็มถัง พร้อมติดตั้งโทรศัพท์พร้อมต่อสายชาร์ตแบตลงที่ D/C CHARGING SOCKET ช่องเสียบเพื่อชาร์จแบตเตอรี่มือถือ และยังเชื่อมต่อระบบ Y-Connect ระหว่าง All New YAMAHA AEROX กับโทรศัพท์มือถือ จากนั้นสื่อมวลชนทั้ง 5 คนต่างเตรียมความพร้อมและวอร์มร่างกายเบาๆเพื่อเป็นรีเช็คตนเอง รวมถึงพูดคุยรูปแบบการทดสอบ All New YAMAHA AEROX ในรูปแบบเอ็นดูร้านซ์ 8 ชั่วโมง และบอกเล่าข้อมูลของรถเป็นช่วงสุดท้ายก่อนที่การทดสอบจะเริ่มขึ้นในเวลา 10.45 น.
ตู่ Ridersclubmag ประเดิมลงสนามเป็นคนแรก ต่อด้วยแบงค์ It My Ride, ปอง Stopbike Channel และปิดท้ายด้วย กอล์ฟ Riding โดยในช่วงแรกของทุกคนนั้นจะขับขี่เพื่อเป็นการสร้างความคุ้นเคยกับรถ All New YAMAHA AEROX กันคนละ 5 รอบ และเมื่อขี่กันครบทุกคนแล้ว ก็ถึงคิวการขับขี่แบบเต็มรูปแบบ โดยทุกคนจะต้องขับขี่กันทั้งหมดคนละ 25 นาที สลับสับเปลี่ยนไปแบบไม่หยุดพัก ยกเว้นในช่วงเติมน้ำมันเชื้อเพลิง
All New YAMAHA AEROX ผ่านมือนักแข่งขับขี่ไปจนผ่านชั่วโมงแรกกันไปอย่างรวดเร็ว น้ำมันเชื้อเพลิงยังอยู่ในระดับที่เพียงพอต่อการขับขี่ต่อไป สภาพยางติดรถยังดูดี ไม่มีคลื่นแต่มีการขึ้นขุยเล็กน้อย ส่วนระบบ Y-Connect ที่เปิดโหมด DashBoard ตลอดเวลาทำให้เห็นว่ารอบเครื่องยนต์ขึ้นเรดไลน์ตลอดเวลา ความเร็วท็อปสปีดที่ใช้ในสนามไทยแลนด์เซอร์กิตอยู่ราว 110 กม./ชม. ซึ่งมีความรู้สึกว่ารถยังเร็วได้อีก ระบบเบรกหลังแบบดรัมเบรกเอาอยู่กับการขับขี่ในสนามที่จำเป็นต้องใช้เพราะนี่คือรถออโตเมติกที่จะต้องใช้ระบบเบรกหลังแทนเอ็นจิ้นเบรก ส่วนระบบเบรกหน้าเป็นดิสก์เบรกมั่นใจได้เต็มที่ หลังจากนั้นการขับขี่ก็ผ่านเข้าสู่ชั่วโมงที่สองชั่วโมงที่สามและครึ่งทางในชั่วโมงที่สี่ ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น แต่นักทดสอบแต่ละคนต่างก็เต็มที่และตั้งใจในการขับขี่ ซึ่งดูได้จากเวลาในการขับขี่ของแต่ละคนที่ดีขึ้นจากที่เคยวิ่งต่อรอบอยู่ที่ 2 นาที 18 วินาที ก็ทำเวลาดีขึ้นมายืนระยะอยู่ที่ 2 นาที 01 วินาที ซึ่งจากพูดคุยของนักทดสอบของแต่ละคนที่หลังจากลงจากรถมา แต่ละคนก็บอกว่า All New YAMAHA AEROX ขี่สนุก ยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งขี่สนุก รถเลี้ยวง่ายและแน่นกว่ารุ่นเดิมทั้งนี้เพราะ All New YAMAHA AEROX มีการปรับมุมคาสเตอร์และระยะเทรลใหม่ อยู่ที่ 26.3 องศา และ 100 มม. รวมถึงกำลังเครื่องยนต์ที่เป็นแบบบลูคอร์ 155 ซีซีระบายความร้อนด้วยน้ำแบบเต็มระบบที่รอบกำลังเครื่องไม่ตกแม้จะอยู่ในช่วงสภาพอากาศที่ร้อนจัด พร้อมระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VVA แค่เปิดโลกเปลี่ยน ทรงพลังด้วยกำลัง 15.4 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุด 13.9 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงตั้งแต่ออกตัว พร้อมตอบสนองดีเยี่ยมทุกอัตราเร่งสไตล์รถสปอร์ต ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำแบบเต็มระบบ พร้อมลูกสูบแบบ Forged แข็งแกร่ง ทนทาน รวมถึงการยึดเกาะของยางหน้าและหลังที่ยังคงทำหน้าที่ได้ดี แม้ยางจะการสึกหรอลงไปเมื่อเทียบจากชั่วโมงแรก แต่ยังคงอยู่ในสภาพที่ดี ระบบกันสะเทือนหน้าและหลังที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ทำให้ยึดเกาะได้ดีรอบรับแรงสั่นสะเทือนของแทร็คและรวมถึงระบบเบรกหน้าที่ยังทำหน้าอย่างไม่มีที่ติส่วนเบรกหลังที่ต้องใช้มากกว่าปกติมีอาการลื่นเล็กน้อยซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดาในการขับขี่ที่ต้องเบรกอยู่ตลอดเวลาในการเข้าแต่ละโค้ง แต่โดยรวมถือว่าเบรกหลังยังทำงานได้ดี โดยนักทดสอบบางท่านเรียกปรับระยะเบรกหลังใหม่ตามการสึกหรอของเบรก ส่วนการที่มีวงล้อแม็กซ์อัลลอยด์ผสมแบบ 3 ก้าน ขนาด 14 นิ้ว ทำให้รถมีความมั่นคงรวมถึงขนาดยางหลัง 140 มม. ทำให้การเลี้ยวในโค้งเต็มไปด้วยความมั่นใจยิ่งขึ้น
ช่วงครึ่งทางหลังของการทดสอบ All New YAMAHA AEROX ยังคงเต็มไปด้วยความเข้มข้น นักทดสอบยังคงรักษาความเร็วต่อรอบได้ดี แต่ช่วงท้ายของการขับขี่ของแต่ละคน ดูจะทำเวลาช้าลงไปนิดด้วยสภาพร่างกายที่เหนื่อยจากการทดสอบรวมถึงสภาพอากาศที่ร้อนระอุ แต่สำหรับรถแล้วยังคงทำหน้าที่อย่างยอดเยี่ยม การตรวจเช็คสภาพยางทำขึ้นทุกๆหนึ่งชั่วโมงเพื่อเช็คสภาพดอกยางหน้าและหลังซึ่งนักทดสอบทุกๆคนจะต้องช่วยกันดูและตัดสินใจร่วมกัน ซึ่งทุกๆครั้งทุกคนก็บอกว่ายางยังคงสามารถทำงานต่อไปได้ เข้าสู่ช่วงท้ายของการทดสอบ พระอาทิตย์เริ่มตกดินกับเวลาที่เหลืออยู่อีกเพียง 1 ชั่วโมงสุดท้าย ผู้ขับขี่แต่ละคนดูจะมีอาการตื่นเต้นกันเล็กน้อย จนมาถึงนักทดสอบคนสุดท้ายซึ่งเป็นหน้าที่ของ แบงค์ It My Ride ที่รับมือต่อในช่วง 20 นาทีสุดท้ายเพื่อครบ 8 ชั่วโมงของการขับขี่แบบเอ็นดูร้านซ์ ช่วงท้ายนี้ดวงอาทิตย์ค่อยๆลับขอบฟ้า ซึ่งช่วงนี้ระบบไฟส่องสว่างทำงานอย่างเห็นได้ชัด All New YAMAHA AEROX คันนี้ได้รับการออกแบบด้วยดีไซน์ใหม่หมด ให้ความรู้สึกสปอร์ตรอบคัน ดุดันตามแบบฉบับรถ Super Sport สายพันธุ์ R-Series DNA ด้วย Full Cowling พร้อม Air Management Layer Design และ X Iconic ใหม่ โดยมาพร้อมกับไฟหน้าใหม่ New FULL LED HEADLIGHT และ Daytime running lights ที่มีความเป็นสปอร์ตโฉบเฉี่ยว มีความสว่างชัดเจน การมองพื้นแทร็คในสนามเป็นไปอย่างชัดเจนให้ทัศนวิสัยที่ดี ไฟท้ายใหม่ New LED TAILLIGHT สว่างชัดเจน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความสวยงามที่เราได้เห็น เพราะน้อยครั้งจะได้เห็นรถเปิดไฟหน้าในสนามแข่ง ในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน การทดสอบเดินทางมาถึง 8 ชั่วโมง แบงค์ It My Ride ทะยานนำ All New YAMAHA AEROX ทะยานผ่านธงตราหมากรุก พร้อมเสียงปรบมือโห่ร้องของนักทดสอบและทีมงานทั้งหมดที่ต่างดีใจกับภาระกิจการทดสอบครั้งสำคัญนี้ที่จบลงแบบเสร็จสมบูรณ์ โดยเมื่อนำรถกลับมาที่จุดจอดแล้ว ได้ทำการตรวจเช็คระยะทางการขับขี่ที่ใช้ไปทั้งหมด 569 กิโลเมตร เติมน้ำมันไป 3 ถังบวกกับอีก 2 ลิตร ซึ่งจากประสบการณ์ของนักทดสอบทั้ง 4 คนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า All New YAMAHA AEROX ประหยัดน้ำมัน เพราะว่าการทดสอบแบบการขับขี่ในสนามจะต้องใช้คันเร่งแบบเปิดคันเร่งเร็วและเบรกเพื่อเข้าโค้งและเปิดคันเร่งเร็วเพื่อทำความเร็วอีกซึ่งเป็นอย่างนี้ไปตลอด 8 ชั่วโมงของการขับขี่ ส่วนสภาพยางยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดียังสามารถใช้งานต่อได้อีกหลายร้อยกิโลเมตร ซึ่งบทสรุปส่งท้ายที่นักทดสอบทั้งหมดต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันในภาระกิจเอ็นดูร้านซ์ 8 ชั่วโมงของ All New YAMAHA AEROX ว่าเป็นรถที่ขี่สนุก มีลูกเล่นเยอะ อำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่ได้อย่างเต็มที่ด้วยโหมด Y-Connect คุ้มค่าคุ้มราคาจนทุกคนต้องยกนิ้วแล้วบอกว่า…ผ่าน !!!
